การเลี้ยงลูก
พาลูกเที่ยวลอนดอน ตอนที่ 1
ตอนที่ 1 : มาเริ่มเตรียมของและเตรียมใจให้พร้อมกันเถอะ
พอนัทชาอายุครบ 1 ขวบ ครูติ๊กกับครูเป็กก็คิดการใหญ่ แบกลูกข้ามนำ้ข้ามทะเลไปลอนดอน ประเทศอังกฤษเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ครั้งแรกที่พานัทชาขึ้นเครื่องบินก็เป็นการบินยาวเกือบ 12 ชั่วโมง ไม่มีการซ้อมบินใกล้ ๆ ในประเทศหรือไปประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ ถ้าคิดจะบินแล้ว ก็เอาให้สุดไปเลย 555
การพาลูกไปต่างประเทศครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการไปเที่ยวเฉย ๆ ครูติ๊กไปเรียนเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ที่ตัดสินใจพาลูกไปด้วยเพราะคงทนคิดถึง ลูกไม่ไหว และไม่มีใครสามารถมาดูลูกได้ตลอดในช่วงที่เราไม่อยู่ ช่วงที่ครูติ๊กไปเรียน ครูเป็กต้องรับมือกับนัทชาตัวป่วนเพียงคนเดียว ทั้งวัน ที่ผ่านมาครูเป็กแทบไม่เคยอยู่กับนัทชาทั้งวันแบบไม่มีคนช่วย และการไปครั้งนี้นอกจากเรียน เลี้ยงลูกแล้ว ก็ยังต้องทำงานบ้าน ล้างจาน กวาดบ้าน ซักผ้าด้วยตัวเอง ไม่มีผู้ช่วยใด ๆ ทั้งสิ้น แค่คิดก็เหนื่อยจนไม่อยากจะเริ่มแพลนแล้วค่ะ แต่เมื่อคิดจะทำแล้ว ก็ต้องทำให้ได้!
และเราก็ผ่าน 3 สัปดาห์ในลอนดอนกันมาแบบเหนื่อยมากแต่มีความสุข 🙂 และได้เรียนรู้อะไรจากกันและกันและจากลูกเยอะมาก ๆ วันนี้จะขอมาเล่าเรื่องราวบางส่วนจากทริปหฤโหดนี้ให้ฟัง หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ท่ีกำลังวางแผนจะพาลูกเล็กไปเที่ยว ต่างประเทศบ้างไม่มากก็น้อยค่ะ
ก่อนไปต้องเตรียมอะไรบ้าง
ก่อนอื่นเลย “เตรียมใจ” ค่ะ เพื่อประสบการณ์ทั้งของพ่อแม่และลูก ครั้งเดียวในชีวิตที่จะไปผจญภัยกันตั้งแต่เขาวัยทารก ให้คิดไว้เลย ว่ายังไงก็เหนื่อย แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ช่วยเหลือกัน แบ่งเบาภาระซึ่งกันและกัน เข้าใจกัน ยังไงก็ไหวค่ะ 🙂
พอเตรียมใจยอมรับความเหนื่อยได้แล้วก็เริ่มมาทำลิสท์ของที่ต้องเตรียม จองตั๋วเครื่องบิน หาที่พัก และวางแผนเที่ยว การไปอยู่ 3 สัปดาห์ กับสัปดาห์เดียวมันต่างกันมาก เพราะเราไม่สามารถเตรียมเสื้อผ้าไปให้พอสำหรับการใช้ 3 สัปดาห์โดยไม่ต้องซัก โดยเฉพาะของลูกที่มี โอกาสเลอะง่ายมากและอาจต้องเปลี่ยนมากกว่า 1 ชุดใน 1 วัน
ของที่เตรียมไปสำหรับลูก
-
เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย
ถ้าไปอยู่นาน แนะนำให้เตรียมให้พอสำหรับใส่ 1 อาทิตย์ (เสาร์-อาทิตย์หรือหลังลูกหลับ คุณพ่อคุณแม่ก็ซักผ้า อบผ้าเอานะคะ 🙂 ) ต้องเผื่อว่าบางวันลูกอาจใช้มากกว่า 1 ชุด อย่าลืมเช็คสภาพอากาศให้ดีและเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสม
-
ผ้าอ้อมสำเร็จรูป
ติ๊กเตรียมไปเพื่อให้พอใช้ในช่วง 2-3 วันแรก และไปซื้อเพิ่มเอาที่ปลายทาง ช่วง 2-3 วันแรกที่เรายังต้องปรับตัวกับสถานที่ใหม่จะได้ มีผ้าอ้อมใช้ไม่ต้องไปกังวลคอยหาซื้อในตอนที่เรายังไม่คุ้นเคยกับที่พักและร้านค้าต่าง ๆ ดีพอ
-
ยา
เตรียมไปให้อุ่นใจเวลาเกิดฉุกเฉิน ติ๊กเตรียมยาแก้ปวดท้อง ยาลดน้ำมูก ยาพ่นจมูก ยาแก้ไข้ เบตาดีน พลาสเตอร์ยา หน้ากากคาดปาก ยาทาเวลาแมลงกัดต่อย วิคส์ มหาหิงค์ หรือถ้าลูกมียาประจำตัวอะไรก็เตรียมไปให้เพียงพอ แนะนำว่าเรื่องยาให้ปรึกษาคุณหมอหรือ เภสัชกรเพื่อแนะนำการใช้ยาและปริมาณยาที่เหมาะสมสำหรับอายุหรือนำ้หนักของลูกเราก่อนไปค่ะ
-
อุปกรณ์แบกลูก
บ้านเราเตรียมไปทั้งรถเข็นและเป้อุ้ม (Baby carrier) รถเข็นนี่ลงทุนซื้อใหม่ เลือกคันที่นำ้หนักเบาหน่อย แต่ยังพอแข็งแรง เพราะถนน หนทางที่ต่างประเทศจะเป็นพื้นหินบ้าง ถ้าล้อไม่แข็งแรงพออาจจะพังก่อนจบทริปได้ น้ำหนักก็ควรจะเบาหน่อย เพราะมีหลายครั้งที่เรา ต้องแบกรถเข็นขึ้นลงบันได เอาที่คุณแม่แบกไหวด้วย เพราะบางครั้งถ้าคุณพ่อไม่ได้อยู่ตรงนั้น คุณแม่อาจจะต้องรับบทหนักชั่วคราว 🙂 เป้อุ้ม สำหรับบ้านเราไม่มีไม่ได้แล้ว เป็นทั้งที่ให้นม (แบกลูกหันหน้าเข้า จัดตำแหน่งให้เหมาะสม แล้วใช้ผ้าคลุมให้นมคลุมอีกทีค่ะ) ที่ให้ลูกนอน และแบกลูกเวลาเราต้องการความคล่องตัวสูง ซึ่งรถเข็นอาจจะไม่เหมาะ
-
นมแม่แช่แข็งและตู้เย็นเคลื่อนที่
นัทชายังกินนมแม่อยู่ และความที่ครั้งนี้ติ๊กไปเรียนเป็นหลัก จึงไม่สามารถให้นมลูกได้ตลอดเวลา เลยต้องเตรียมนมสต๊อกติดไปด้วย ระหว่างเรียนคงมีเวลาปั๊มนมแค่วันละรอบซึ่งไม่พอกับปริมาณที่ลูกกินช่วงที่เราไม่ได้อยู่กับเค้า คิดอยู่นานว่าจะเตรียมนมไปอย่างไรดี ให้อยู่รอดปลอดภัยถึงลอนดอน ตัดสินใจซื้อกระเป๋าเก็บความเย็น PackIT มาลอง เพราะพกพาสะดวกและไม่ต้องเตรียม ice pack ไป เตรียมนมไปประมาณ 10 ถุงใส่ในกระเป๋าที่แช่แข็งมาแล้ว 12 ชั่วโมง แพ็คใส่กระเป๋าเดินทาง โหลดลงใต้เครื่อง แล้วก็ลุ้นเอาว่าจะรอดไม๊ 🙂 พอถึงที่พักรีบเปิดกระเป๋าเช็คนมก่อนเลย ปรากฏว่านมยังแข็งอยู่ค่ะ! มีเริ่มละลายนิดหน่อย แต่โดยรวมแล้วโอเคมาก รีบเอาเข้า freezer ก่อนเลย รอด! ที่ตัดสินใจแพ็คนมแล้วโหลดลงใต้เครื่องเพราะอุณหภูมิที่ใต้เครื่องจะเย็นมาก ซึ่งก็มีส่วนช่วยทำให้นมยังคงไม่ละลาย และนำมาใช้ได้ ตลอดทริป การโหลดของเหลวลงใต้เครื่องทำให้เราไม่ต้องมาปวดหัวตอน security check และอาจจะต้องโดนให้ทิ้งนมแม่ก็เป็นได้
-
อาหารของลูก
นัทชายังทานอาหารแบบบดหยาบ และเป็นอาหารที่ปกติติ๊กทำเอง อาจมีทานอาหารของผู้ใหญ่แบบอื่นที่นิ่ม ๆ และรสไม่จัดได้บ้าง แต่ไปครั้งนี้จะให้ไปทำอาหารก็คงไม่สะดวก และจะให้แบกอาหารแช่แข็งไปก็ไม่มั่นใจว่าจะเสียหรือเปล่า มีหลายครั้งที่ลูกต้องทานอาหาร นอกสถานที่ ถ้าพกอาหารสดไปก็ต้องไปหาที่อุ่น ซึ่งอาจจะไม่มีให้ใช้เวลาที่ต้องการ เราเลยต้องพึ่งอาหารสำเร็จรูปค่ะ ตอนแรกก็ไม่ มั่นใจว่านัทชาจะยอมทานหรือเปล่า เลยต้องให้เริ่มทานตั้งแต่ก่อนไปเพื่อให้คุ้นเคย ติ๊กซื้อของยี่ห้อ Hooray! ซึ่งมีช้อนมาเสร็จสรรพ และ packaging เป็นชามพร้อมฝาปิดถ้าทานไม่หมด เลยสะดวกมาก ๆ เตรียมไปให้พอสำหรับช่วง 2-3 วันแรกเช่นกัน ก่อนไปซื้อเพิ่มเติมเอาที่นู่น ผลไม้ อโวคาโด หาซื้อเอาที่ไปเที่ยวได้ไม่ยาก ลูกก็ยังได้ทานอาหารครบ 5 หมู่อยู่เหมือนเดิมค่ะ
-
อุปกรณ์การกินและขวดนม
เตรียมไป 2-3 ชุด เผื่ออยู่คนเดียวแล้วยังไม่มีเวลาล้าง จะได้สามารถหยิบชิ้นอื่นที่สะอาดมาใช้ได้ทันที บางทีต้องพกช้อน 2-3 คันออกไปนอกบ้านไว้ป้อนข้าวลูกด้วย ถ้าให้ลูกทานอาหารสำเร็จรูปโดยบีบจากถุงก็ไม่ต้องพกถ้วยชามไปก็ได้ค่ะ แต่ส่วนตัวรู้สึก ว่าป้อนจากถ้วยยังไงก็สะดวกกว่า อันนี้แล้วแต่ความถนัด ส่วนเรื่องที่นึ่งขวดนม เราแบกไปไม่ไหว เลยใช้วิธีแช่ขวดนมที่ล้างแล้ว ในน้ำร้อนต้มสุกแทนค่ะ
-
ของเล่นและนิทาน
ขึ้นอยู่กับว่าโปรแกรมเที่ยวแพ็คแค่ไหน ถ้าออกเที่ยวเยอะก็อาจจะไม่ต้องเตรียมของเล่นไปเยอะมาก แต่ถ้าต้องอยู่ที่ที่พักเยอะหน่อย (เหมือนกรณีของเรา) ก็คงต้องขนไปหลายอย่างหน่อยค่ะ บ้านเราเลือกแต่ของเล่นชิ้นเด็ดที่ลูกชอบ นิทานเรื่องโปรดประมาณ 4-5 เล่ม แบ่งบางชิ้นเอาขึ้นเครื่องติดไปด้วย เอาไว้ให้เล่นแก้เบื่อ
-
อุปกรณ์การนอน
ความที่ลูกจะต้องไปนอนแปลกที่ เราเลยพยายามทำให้ลูกไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของที่นอนตัวเองให้มากที่สุด จึงแบกผ้าเน่า (lovey) และตุ๊กตาตัวโปรดของลูกไปด้วย พร้อมทั้ง baby camera ที่ต้องติดตั้งเพื่อให้คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยายทางกรุงเทพฯ ได้ดูหลานด้วย 🙂 เราขอให้ทางที่พักเตรียม crib ให้ เพราะนัทชานอนคนเดียวแบบแยกห้องกับเราแล้ว บ้านไหนที่ลูกนอนเตียงเดียวกับคุณพ่อคุณแม่ เรื่องอุปกรณ์การนอนก็คงไม่ต้องเตรียมอะไรมาก สบายไปค่ะ นี่เป็นของหลัก ๆ ที่อยากมาเล่าให้ฟังค่ะ นอกจากนี้ก็จะมีของที่ลูกใช้ประจำวันต่าง ๆ แนะนำว่าให้ทำลิสท์ของตั้งแต่ตอนแรกเพื่อจะได้ง่าย ในการจัดและช่วยทำให้ไม่ตกหล่นด้วยค่ะ 🙂
ขอจบเรื่องการเตรียมของเพียงเท่านี้ก่อนนะคะ ตอนที่ 2 จะมาเล่าให้ฟังว่าเราเลือกที่พักและจองตั๋วเครื่องบินอย่างไรบ้าง ส่วน ตอนที่ 3 จะเป็นเรื่องสถานที่เที่ยวในลอนดอนและการเลี้ยงลูกแบบฉายเดี่ยวของพ่อเป็กค่ะ
ติดตามได้ที่ www.insthinklearning.com เร็ว ๆ นี้ค่ะ 🙂
แวะมาพูดคุยกับพวกเราชาวอินสติ๊งค์ฯ
ได้ที่ อินสติ๊งค์ เลิร์นนิ่ง (insThink Learning)
ชั้น 6 เซ็นทรัลเวิลด์ โซน Genius Planet
ทุกวันอังคาร – วันอาทิตย์ หรือ โทร 084 515 4151