“หนูไม่รู้…” คำพูดเล็ก ๆ ที่อาจสะกดอนาคตของลูกไว้โดยไม่รู้ตัว

🌧️ SITUATION: เริ่มจากคำถามง่าย ๆ ที่มักจบลงด้วย “ไม่รู้…”

ลองนึกถึงภาพนี้นะคะ…

👩🏻: “วันนี้ที่โรงเรียนเป็นยังไง?”

👧🏻: “ไม่รู้…”

👩🏻: “ทำไมถึงไม่ทำการบ้านให้เสร็จล่ะ?”

👧🏻: “ไม่รู้…”

👩🏻: “หนูอยากไปไหนช่วงปิดเทอม?”

👧🏻: “…ไม่รู้”

บางครั้ง พ่อแม่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะคิดว่า “เดี๋ยวโตขึ้น เด็กก็คงพูดเก่งเอง”
หรือ “แค่ไม่รู้เอง คงไม่เป็นไร”…

แต่รู้ไหมคะว่า ถ้าเด็กพูดคำว่า “ไม่รู้” จนเป็นนิสัย มันกำลังทำให้เขาหยุดพัฒนา “กระบวนการคิด” ไปทีละนิด
โดยที่เราอาจไม่รู้ตัวเลยว่า… คำพูดเพียงคำเดียวนี้กำลังสะสม “ผลกระทบ” แบบเงียบ ๆ อยู่ในใจลูก

🔍 TASKS: ทำไมเด็กถึงพูดว่า “ไม่รู้” บ่อยขึ้นเรื่อย ๆ?

การที่เด็กตอบว่า “ไม่รู้” ไม่ได้แปลว่าเขาไม่เก่ง หรือไม่สนใจ
แต่มันเป็น “ทางออก” ที่ง่ายที่สุดสำหรับเขาในตอนนั้น

1. กลัวตอบผิด แล้วโดนตำหนิ
   เด็กบางคนเคยพยายามตอบแล้ว แต่เจอคำพูดตัดกำลังใจ เช่น
   “แบบนี้ยังตอบไม่ได้อีกเหรอ?”
   “แค่นี้ก็คิดไม่ออกแล้ว?”

2. ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น เพราะคิดว่าคำตอบของตัวเองไม่สำคัญ
   เด็กหลายคนไม่กล้าพูด เพราะเขาไม่แน่ใจว่า “ผู้ใหญ่จะฟังจริงหรือเปล่า”

3. ชินกับการที่มีคนอื่นคิดให้ตลอด
   “เดี๋ยวแม่ตัดสินใจให้เอง”
   “ไม่ต้องคิดเยอะ เดี๋ยวพ่อเลือกให้”

สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เด็กเชื่อว่า…
“ฉันไม่ต้องคิดก็ได้ ยังไงก็มีคนตัดสินใจแทนอยู่ดี”

💥 ACTIONS: ปล่อยไว้แบบนี้นาน ๆ จะเกิดอะไรขึ้น?

เด็กที่ชินกับการพูดว่า “ไม่รู้” จะโตไปเป็นเด็กที่ ไม่มั่นใจในการเลือก ไม่กล้าแสดงความเห็น และกลัวความผิดพลาด

ในวัยประถม เขาอาจหลบตาครู ไม่ยกมือตอบ ไม่ร่วมกิจกรรม
ในวัยมัธยม เขาอาจยอมตามกลุ่มเพื่อน เพราะกลัวโดดเดี่ยว
ในวัยทำงาน เขาอาจพลาดโอกาสดี ๆ ไป เพราะไม่มี “กล้ามคิด กล้าตัดสินใจ” ด้วยตัวเอง

ลองจินตนาการว่า ลูกของเราต้องโตขึ้นไปใช้ชีวิตโดยไม่สามารถพูดสิ่งที่เขาคิดได้
ต้องรอให้คนอื่นตัดสินใจให้ตลอดเวลา แค่คิด…ก็รู้สึกไม่สบายใจแล้วใช่ไหมคะ?

🌱 RESULTS: พ่อแม่ช่วยลูกฝึกคิดได้ตั้งแต่วันนี้

ข่าวดีคือ… เราสามารถเปลี่ยนสิ่งนี้ได้ ไม่ต้องรอให้ลูกโตเป็นวัยรุ่นก่อน แค่เริ่มจากบทสนทนาเล็ก ๆ ในบ้าน

✅ ลองเปลี่ยนคำถามจาก “วันนี้เป็นยังไงบ้าง?”
👉 เป็น “วันนี้มีเรื่องอะไรทำให้หนูยิ้มบ้าง?”

✅ เปลี่ยนจากการสรุปให้ลูก
👉 เป็น “หนูคิดว่าเราควรทำยังไงดี?”

✅ เปลี่ยนจาก “เร็ว ๆ แม่รีบ”
👉 เป็น “หนูลองคิดดูก่อนก็ได้นะ แม่รอฟังอยู่”

แม้คำตอบจะยังไม่ชัดเจน หรืออ้อมค้อม แต่สิ่งที่เขาได้คือ “พื้นที่ปลอดภัยในการฝึกคิด” และที่สำคัญ…อย่าลืม ชื่นชมกระบวนการคิดของลูก มากกว่าคำตอบของเขา

✨ แล้ว insThink ช่วยได้ยังไง?

ที่ insThink เราออกแบบคอร์ส Basic Thinking สำหรับเด็กวัย 6-12 ปีโดยเฉพาะในคอร์สนี้ เด็กจะได้ฝึกการคิดอย่างเป็นขั้นตอน ฝึกวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล รวมถึง ฝึกพูดและอธิบายความคิดของตัวเองออกมาอย่างชัดเจน ผ่านกิจกรรมสนุก ๆ

เราไม่บอก “คำตอบที่ถูก” แต่เราฝึกให้เขา รู้วิธีถามตัวเอง และหาคำตอบด้วยกระบวนการคิดที่ดี

เมื่อเขาฝึกแบบนี้ซ้ำ ๆ ในบรรยากาศที่ปลอดภัย คำว่า “ไม่รู้” จะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นคำว่า…

👉 “หนูขอลองคิดก่อน”
👉 “หนูคิดว่าอาจจะ…”
👉 “หนูมีความเห็นแบบนี้ค่ะ”

นั่นคือจุดเริ่มต้นของการสร้างเด็กที่ “คิดได้ ตัดสินใจเป็น และไม่กลัวการเติบโต”

❤️ เพราะอนาคตของลูก เริ่มจากบทสนทนาเล็ก ๆ ที่บ้านวันนี้

ลองหยุดฟังให้จบก่อนที่เขาจะพูดว่า “หนูไม่รู้”

📩 หากคุณอยากรู้ว่าเราช่วยให้ลูกคุณ “คิดเป็น” ได้ยังไงสามารถทดลองเรียนฟรีกับ insThink ได้เลยนะคะ

หากท่านไหนมีข้อสงสัย หรือ ทำแล้วไม่ได้อย่างที่หวัง ลองแวะมาพูดคุยกับพวกเราชาวอินสติ๊งค์ฯ
ได้ที่ อินสติ๊งค์ เลิร์นนิ่ง (insThink Learning)
โทร: 084 515 4151
Line: @insthink
facebook : insthinklearning